The 2-Minute Rule for ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
The 2-Minute Rule for ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
Blog Article
วิกฤตการเรียนรู้: เรียนไปแต่ใช้ไม่ได้ และ (ได้) เรียนน้อยแต่เจ็บมาก
แม้วิกฤตการเรียนรู้จะเกิดขึ้นจริง แต่รายงานกลับเปรียบเปรยว่า วิกฤตนี้เป็นเสมือนวิกฤตที่ไม่มีใครมองเห็น เพราะไม่มีใครสนใจเท่าที่ควร อีกทั้ง ระบบการศึกษาส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เก็บข้อมูลในส่วนของการเรียนรู้ จนแทบเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำที่จะสร้างแรงผลักดันอะไรขึ้นมาได้
คู่มือหรือแนวทางการให้บริการสำหรับผู้รับบริการหรือผู้มาติดต่อ
การประชาสัมพันธ์ให้เห็นถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สามารถทำให้ผู้คนตระหนัก และเข้าใจถึงปัญหาได้ดีมากยิ่งขึ้น การแพร่กระจายข่าวสารเพื่อสร้างความตระหนักรู้ อาจทำได้โดยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดียที่เข้าถึงผู้คนได้อย่างหลากหลาย ง่ายดาย และรวดเร็ว หรืออาจเป็นการประชาสัมพันธ์ผ่านโครงการ หรือหน่วยงานต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ และมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาถูกสื่อสารไปถึงประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในประเทศไทยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้น และยังคงอยู่มาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นผลมาจากความเหลื่อมล้ำในด้านต่างๆ เช่น คุณภาพของโรงเรียนที่แตกต่าง การศึกษาไม่ทั่วถึงในพื้นที่ห่างไกล การขาดแคลนทุนการศึกษา ปัญหาเศรษฐกิจ และโรคระบาด เป็นต้น จึงส่งผลทำให้เยาวชนไทยจำนวนมากถูกช่วงชิงสิทธิขั้นพื้นฐานในการที่จะได้รับความรู้ และถูกผลักออกจากระบบการศึกษาในที่สุด
ศธ. เดินเครื่องจัดการศึกษาชาติ ชี้ลดเหลื่อมล้ำ สร้างความยั่งยืนเริ่มจากเราทุกคน
ที่เป็นผู้ชาย ครูต้องทำหน้าที่ทุกอย่าง เป็นทั้งครู พ่อ แม่ ไม่ใช่เฉพาะงานสอนอย่างเดียว ความประทับใจสำคัญที่ครูนกบอกเล่าถึงการที่ครูสอนให้เด็ก ๆ รู้จักทักษะการใช้ชีวิตที่จำเป็นที่เราต้องพร้อมเพื่อออกไปเจอกับโลกภายนอก
แผนกลยุทธ์/แผนการดำเนินงาน แผนกลยุทธ์
iSEE ฐานข้อมูลเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
แผนกลยุทธ์/แผนการดำเนินงาน ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา แผนกลยุทธ์
ส่วนศึกษาธิการจังหวัดต้องพยายามให้แต่ละจังหวัดเขียนแผนเรื่องการศึกษาให้ขับเคลื่อนได้ มองให้เห็นว่าเราทำอะไรได้และในความร่วมมือของเราทำอะไรได้อีก และบุคลากรต้องพึงระลึกถึงหน้าที่อยู่เสมอว่าไม่ใช่แค่ใช้สถานศึกษาเป็นบันไดไต่ขึ้นสู่ความเจริญก้าวหน้า แต่ระบบต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง อย่ายึดโยงที่ตัวบุคคล เพราะความยั่งยืนของการศึกษาชาติไม่ได้เริ่มที่นโยบายแต่เริ่มจากเราทุกคน การจัดการศึกษาที่ดีต้องทำความเข้าใจกับความยั่งยืน รวมถึงหาความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือออกจากห้องประชุมไปต้องลงมือทำทันทีถึงจะยั่งยืน ถ้าการศึกษาในประเทศเราดีก็แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้
สร้างมาตรฐานขั้นต่ำ – แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
ครูนก จ.ส.ต.สวัสดิ์ ชัยณรงค์ หัวหน้าสาระวิชาสอนวิชาสังคม ประสบการณ์เรียนรู้การเรียนที่ได้รับจากครูตชด. ในสมัยเด็กเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ห้องเรียนไม่เน้นการเรียนในห้อง ครูนกจึงออกแบบให้นักเรียนออกไปนอกห้องเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม โดยใช้ฐานทุนของโรงเรียนและชุมชน เช่น สำนักสงฆ์ ที่ครูนกชวนเด็ก ๆ ไปเรียนรู้วิชาพระพุทธศาสนาควบคู่ไปกับการสอนในห้องเรียนเพื่อให้เห็นความหลากหลายของกิจกรรม และเรียนรู้พื้นถิ่นมาออกแบบกิจกรรมและสอดแทรกเข้าไป เพื่อสร้างความตระหนักคุณค่าของสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นและ วัฒนธรรมชุมชน อาชีพชุมชนที่แต่เดิมในพื้นที่ทำแร่ดีบุกที่เป็นอาชีพเสริมจากการทำสวนปาล์มน้ำมันและสวนทุเรียน
เพื่อไม่ให้เด็กและเยาวชนหลุดจากระบบการศึกษาไปมากกว่านี้ นอกจากภาครัฐจะพิจารณาในฐานะที่เป็นเรื่องเร่งด่วน และมีมาตรการในการช่วยเหลือดูแลกลุ่มเด็กที่มีปัญหาการเข้าถึงระบบการศึกษาและมีประสิทธิภาพ เราทุกคนในสังคมที่อยากเห็นประเทศไทยขับเคลื่อนไปสู่อนาคตที่ดีก็สามารถช่วยกันคนละไม้คนละมือคอยประคับประคอง มอบโอกาสและช่วยกันโอบอุ้มเด็กๆ ไม่ให้หลุดจากระบบการศึกษา ให้สามารถก้าวเดินไปสู่อนาคตที่พวกเขาคาดหวังไว้ได้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นและก้าวสำคัญของระบบการศึกษาไทย